ArticleManagement

เข้าใจ Kanban Board: เครื่องมือจัดการงาน

Kanban Board เป็นเครื่องมือจัดการงานแบบ Agile ที่ช่วยให้เห็นภาพงาน ช่วยจำกัดงานที่กำลังดำเนินการ (WIP :Work In Progress ) และเพิ่มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับทีมเทคโนโลยีและบริการต่างๆ Kanban Board ใช้การ์ด คอลัมน์ และแนวคิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

องค์ประกอบของ Kanban Board

  • สัญญาณภาพ (Visual Signals): การ์ด (Sticky notes, Tickets) บนบอร์ด แสดงงานต่างๆ ที่ทีมกำลังทำ
  • คอลัมน์ (Columns): ตัวแทนของกิจกรรมต่างๆ ในกระบวนการทำงาน ตัวอย่างเช่น “To Do,” “In Progress,” “Done”
  • ขีดจำกัดงานที่กำลังดำเนินการ (WIP limits): จำนวนการ์ดสูงสุดในแต่ละคอลัมน์
  • จุดเริ่มต้นงาน (Commitment point): จุดที่ทีมเริ่มต้นทำงานกับการ์ด
  • จุดส่งมอบงาน (Delivery point): จุดที่งานเสร็จสมบูรณ์

เริ่มต้นใช้งาน Kanban Board

  1. ระบุกระบวนการทำงาน: ลิสต์กิจกรรมต่างๆ ที่ทีมทำเป็นประจำ
  2. สร้างคอลัมน์: แบ่งคอลัมน์ตามขั้นตอนของกระบวนการทำงาน ตัวอย่างเช่น “To Do,” “In Progress,” “Done”
  3. สร้างการ์ด: เขียนแต่ละกิจกรรมลงการ์ด
  4. กำหนด WIP limits: กำหนดจำนวนการ์ดสูงสุดในแต่ละคอลัมน์
  5. ติดตามและปรับปรุง: ทีมสังเกตและปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างการใช้งาน Kanban Board

ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์:

  • คอลัมน์: Backlog, To Do, In Progress, Testing, Done
  • การ์ด: รายละเอียดของฟีเจอร์/บั๊ก
  • WIP limits: Backlog (20), To Do (5), In Progress (3), Testing (2)

ทีมการตลาด:

  • คอลัมน์: Idea, Research, In Progress, Review, Approved, Published
  • การ์ด: แนวคิดคอนเทนต์
  • WIP limits: Idea (10), Research (3), In Progress (2), Review (1)

ข้อดีของ Kanban Board

  • เห็นภาพงาน: ทีมสามารถเห็นภาพรวมงานทั้งหมดที่อยู่ในแต่ละขั้นตอน
  • จำกัดงานที่กำลังดำเนินการ: ช่วยให้ทีมโฟกัสกับงานสำคัญ ป้องกันปัญหาการทำงานพร้อมกันหลายอย่าง
  • เพิ่มประสิทธิภาพ: ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาการทำงาน
  • ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: ทีมสามารถเรียนรู้และปรับปรุงกระบวนการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
  • ใช้งานง่าย: เริ่มต้นใช้งานง่าย ปรับใช้กับงานได้หลากหลาย

ข้อเสียของ Kanban Board

  • ไม่มีกรอบเวลา: อาจทำให้ทีมทำงานช้าลงหากไม่มีการกำหนดเวลา
  • ไม่มีบทบาทที่ชัดเจน: อาจเกิดปัญหาความรับผิดชอบไม่ชัดเจน
  • ต้องการวินัย: ทีมต้องมีวินัยในการจัดการงาน
  • อาจไม่เหมาะกับงานบางประเภท: งานที่ซับซ้อนหรือต้องการการประสานงานสูง
เข้าใจ Kanban Board

FAQ

Kanban Board ต่างจาก Scrum Board อย่างไร?

  • ระยะเวลา: Kanban ไม่มีกำหนดเวลา ของ Scrum มีกำหนดเริ่มต้นและสิ้นสุด
  • บทบาท: Scrum มีบทบาทที่ชัดเจน (Product Owner, Dev Team, Scrum Master) Kanban ไม่มีบทบาทตายตัว
  • วงจรชีวิตโครงการ: Kanban ใช้ตลอดวงจรชีวิต Scrum ใช้เฉพาะในแต่ละสปρινต์
  • ความยืดหยุ่น: Kanban ยืดหยุ่นกว่า สามารถปรับเปลี่ยนงานได้ตลอดเวลา

Kanban Board เหมาะกับใคร?

  • ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์
  • ทีมการตลาด
  • ทีมบริการลูกค้า
  • ทีมออกแบบ
  • ทีมอื่นๆ ที่ต้องการจัดการงาน

เริ่มต้นใช้งาน Kanban Board ได้อย่างไร?

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Kanban Board
  • ระบุกระบวนการทำงานของทีม
  • แบ่งคอลัมน์ตามขั้นตอนของกระบวนการทำงาน
  • เขียนรายละเอียดงานลงการ์ด
  • กำหนด WIP limits
  • ติดตามและปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง

เครื่องมือสำหรับ Kanban Board

  • แบบดิจิทัล: Trello, Jira, Asana
  • แบบกายภาพ: ไวท์บอร์ด, กระดาษโน้ต, กระดานแม่เหล็ก

เคล็ดลับการใช้งาน Kanban Board

  • เริ่มต้นง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน
  • กำหนด WIP limits ที่เหมาะสม
  • ติดตามผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
  • สื่อสารกับทีมอย่างสม่ำเสมอ
  • เรียนรู้จากผู้อื่น

ตัวอย่างการใช้งาน Kanban Board

ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์:

  • คอลัมน์: Backlog, To Do, In Progress, Testing, Done
  • การ์ด: รายละเอียดของฟีเจอร์/บั๊ก
  • WIP limits: Backlog (20), To Do (5), In Progress (3), Testing (2)

ทีมการตลาด:

  • คอลัมน์: Idea, Research, In Progress, Review, Approved, Published
  • การ์ด: แนวคิดคอนเทนต์
  • WIP limits: Idea (10), Research (3), In Progress (2), Review (1)

Kanban Board เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับงานหลากหลายประเภท เริ่มต้นใช้งานง่าย ปรับใช้กับทีมของคุณได้

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

What is a kanban board?

Close
WiSDOM FiRM
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.