NIT Negative Income Tax:!คาดว่า 2-3 ปีได้ใช้
เเบบนี้ก็ได้หรอ? ได้ยินคำว่า Negative Income Tax หรือ NIT หลายคนคงงงๆ ว่ามันคืออะไร แล้วจะนำมาใช้กับระบบสวัสดิการของไทยได้จริงหรือ? วันนี้เรามาหาคำตอบกันแบบชิลๆ
NIT ( Negative Income Tax ) คืออะไร? ทำงานอย่างไร?
NIT หรือ ภาษีเงินได้แบบติดลบ อาจฟังดูเป็นเรื่องใหม่ แต่จริงๆ แล้วหลายประเทศทั่วโลกใช้ระบบนี้กันมานานแล้วล่ะ
หลักการพื้นฐานของ NIT
ง่ายๆ เลยนะ ลองนึกภาพตาม สมมติว่ารัฐบาลกำหนดเกณฑ์รายได้ไว้
- ถ้าเรามีรายได้ถึงเกณฑ์ ก็ต้องเสียภาษีเหมือนเดิม
- แต่ถ้ารายได้ไม่ถึงเกณฑ์ แทนที่เราจะไม่ได้อะไรเลย รัฐบาลจะจ่ายเงินส่วนต่างให้เราต่างหากล่ะ
ผลกระทบต่อระบบภาษีและสวัสดิการ
NIT จะเข้ามาปฏิวัติระบบภาษีและสวัสดิการของไทยแบบยกเครื่องเลยก็ว่าได้ โดยจะรวมทุกอย่างไว้ในระบบเดียวกัน ทำให้การบริหารจัดการง่ายขึ้น ลดขั้นตอน ลดความซ้ำซ้อน และเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น
ข้อดีของการใช้ NIT
- เพิ่มประสิทธิภาพ: บริหารจัดการง่าย ลดขั้นตอนและความซ้ำซ้อน
- ความเท่าเทียม: ทุกคนมีสิทธิได้รับสวัสดิการอย่างเท่าเทียม
- กระตุ้นเศรษฐกิจ: เงินที่คนได้รับจะถูกนำไปใช้จ่าย หมุนเวียนในระบบ
เปลี่ยนโฉมสวัสดิการไทย: จากบัตรสวัสดิการสู่ NIT
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เผยว่า รัฐบาลมีแผนจะนำระบบ NIT มาใช้จ่ายสวัสดิการแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมาตรการอื่นๆ คาดว่าจะเริ่มเห็นผลภายใน 2-3 ปีนี้
บทบาทของ NIT ในการปรับปรุงระบบสวัสดิการ
NIT จะเข้ามาเป็นแพลตฟอร์มหลักในการจ่ายสวัสดิการ โดยทุกคนต้องยื่นแบบแสดงรายได้ ไม่ว่าจะมีรายได้ถึงเกณฑ์หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้ฐานข้อมูลภาษีครอบคลุมมากขึ้น
การยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมาตรการอื่นๆ
เมื่อระบบ NIT เริ่มทำงาน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ จะถูกยกเลิก และแทนที่ด้วยการจ่ายเงินผ่านระบบ NIT แทน
การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบ NIT อย่างราบรื่น
รัฐบาลมีแผนที่จะประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ และเตรียมความพร้อมให้ประชาชนก่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบ NIT อย่างเป็นทางการ
Workfare ไม่ใช่ Welfare: NIT กับการส่งเสริมการทำงาน
จุดเด่นของ NIT ที่ต่างจากระบบสวัสดิการแบบเดิมๆ คือ NIT จะมาพร้อมกับแนวคิด “Workfare” ที่เน้นการส่งเสริมให้คนทำงาน
แนวคิด Workfare ในระบบ NIT
Workfare เชื่อว่า การทำงานคือหนทางสู่ชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้น NIT จะถูกออกแบบให้จ่ายสวัสดิการ “เติมเต็ม” ให้กับคนที่ทำงาน มากกว่าคนที่ไม่ได้ทำงาน
สร้างแรงจูงใจในการทำงานผ่าน NIT
ยกตัวอย่างเช่น คนที่ทำงาน แม้จะมีรายได้น้อย ก็อาจจะได้รับสวัสดิการมากกว่าคนที่ไม่ได้ทำงาน เพื่อเป็นกำลังใจ และเป็นแรงจูงใจให้คนอยากทำงานมากขึ้น
ตัวอย่างรูปแบบแพ็กเกจสวัสดิการตาม NIT
แพ็กเกจสวัสดิการของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับระดับรายได้ เช่น คนที่รายได้น้อย อาจจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ ค่าเดินทาง ค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น
ความท้าทายของ NIT ในบริบทประเทศไทย
แม้ NIT จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่า การนำมาใช้จริงในบริบทประเทศไทย ยังมีโจทย์ที่ท้าทายรออยู่
ปัญหาการเข้าถึงข้อมูลรายได้
คนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ ยังอยู่นอกระบบ ไม่มีหลักฐานรายได้ที่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้การคำนวณ NIT ไม่แม่นยำ
ความเสี่ยงของการฉ้อโกงและการทุจริต
เมื่อระบบใช้ข้อมูลรายได้เป็นหลัก อาจเปิดช่องให้เกิดการโกง เช่น แจ้งรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อรับเงินสวัสดิการมากขึ้น
แนวทางแก้ไขและรับมือกับความท้าทาย
- สร้างฐานข้อมูลรายได้ที่เชื่อถือได้: โดยบูรณาการข้อมูลจากหลายหน่วยงาน
- พัฒนาระบบตรวจสอบป้องกันการทุจริต: ใช้เทคโนโลยี Blockchain AI เข้ามาช่วย
- สร้างความโปร่งใส: เปิดเผยข้อมูล ขั้นตอน และเกณฑ์ต่างๆ ให้ประชาชนตรวจสอบได้
มุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ต่อ NIT
ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) มองว่า NIT เป็นนโยบายที่ดี แต่การนำมาใช้จริงไม่ง่าย เพราะต้องแก้ปัญหาเรื่องข้อมูลรายได้ และการป้องกันการทุจริตให้ดี
ข้อดีของ NIT ในมุมมองของ KKP
- ดึงคนเข้าระบบ: ทุกคนต้องยื่นแบบแสดงรายได้ ทำให้มีฐานข้อมูลที่ครอบคลุม
- จัดสรรงบประมาณได้อย่างตรงจุด: ช่วยให้เงินสวัสดิการไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง
ข้อควรระวังและข้อกังวล
- ต้นทุนการดำเนินการ: การสร้างระบบ ฐานข้อมูล และระบบตรวจสอบ ต้องใช้เงินมหาศาล
- ความพร้อมของประชาชน: ต้องสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้ ก่อนนำระบบมาใช้อย่างจริงจัง
NIT คือความหวังใหม่ของระบบสวัสดิการไทย ที่จะนำไปสู่สังคมที่เท่าเทียม เป็นธรรม และยั่งยืน แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกคน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. NIT แตกต่างจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างไร?
NIT เป็นระบบที่ครอบคลุมกว่า โดยทุกคนต้องยื่นแบบแสดงรายได้ และได้รับเงินสนับสนุนตามเกณฑ์ ต่างจากบัตรสวัสดิการที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
2. ใครบ้างที่มีสิทธิได้รับเงินจาก NIT?
ทุกคนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใดๆ เพียงแค่ยื่นแบบแสดงรายได้เท่านั้น
3. จะเริ่มใช้ NIT เมื่อไหร่?
คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนภายใน 2-3 ปีนี้ หลังจากรัฐบาลปรับปรุงกฎหมาย และเตรียมความพร้อมต่างๆ เรียบร้อยแล้ว
4. NIT จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้จริงหรือ?
NIT มีศักยภาพในการลดความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การช่วยเหลือกลุ่มคนรายได้น้อย ให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียม
5. ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ก่อนที่ NIT จะเริ่มใช้งาน?
เตรียมตัวง่ายๆ โดยการทำความเข้าใจ ติดตามข่าวสาร และเตรียมเอกสารแสดงรายได้ให้พร้อม เพื่อการยื่นแบบแสดงรายได้ที่ราบรื่น
ขอบคุณที่มา คลังยันปฏิรูปภาษี NIT เกิดแน่ คาดไม่เกิน 3 ปี เลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (prachachat.net)