7 เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ด (ขั้นสูง) ปี 2024
การทำการตลาดยุคใหม่ ผู้ประกอบการด้านการตลาดดิจิทัลต่างใช้เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ดที่หลากหลาย บทความนี้จะแนะนำเครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ด 7 ประเภท พร้อมจุดเด่น จุดด้อย และฟีเจอร์พิเศษ เพื่อช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับธุรกิจ
การตลาดยุคใหม่ ผู้ประกอบการด้านการตลาดดิจิทัลต่างใช้เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ดที่หลากหลาย บทความนี้จะแนะนำเครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ด 7 ประเภท พร้อมจุดเด่น จุดด้อย ฟีเจอร์พิเศษ ตัวอย่างการใช้งาน และราคา เพื่อช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับธุรกิจ
คุณสมบัติพื้นฐานที่พึงประสงค์ของเครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ด
- Keyword suggestions (การแนะนำคีย์เวิร์ด): เครื่องมือที่ดีควรแนะนำคีย์เวิร์ดที่หลากหลาย บางเครื่องมือดึงข้อมูลจาก Google แต่บางเครื่องมือดึงข้อมูลจากเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ YouTube และ Amazon
- Search volume (ปริมาณการค้นหา): บอกจำนวนครั้งที่คีย์เวิร์ดถูกค้นหาในช่วงเวลา tertentu ช่วยประเมินความนิยมของคีย์เวิร์ด
- Keyword difficulty (ความยากของคีย์เวิร์ด): บ่งบอกความยากง่ายในการติดอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหา คีย์เวิร์ดที่ง่ายต่อการติดอันดับจะช่วยให้คุณมองเห็นได้ง่ายขึ้น
- Search intent (เจตนาในการค้นหา): เนื้อหาของคุณต้องตรงกับความคาดหวังของผู้ใช้ เครื่องมือบางอย่างช่วยคุณระบุว่าเจตนาในการค้นหาของคีย์เวิร์ดเป็นแบบนำทาง ข้อมูล หรือธุรกรรม
- Competitor analysis (การวิเคราะห์คู่แข่ง): เครื่องมือบางอย่างช่วยวิเคราะห์คู่แข่ง ช่วยให้คุณดูว่าคู่แข่งติดอันดับด้วยคีย์เวิร์ดอะไรบ้าง
7 เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ดขั้นสูงสำหรับปี 2024
1. Moz Keyword Explorer
- จุดเด่น: ข้อมูลหลากหลาย ใช้งานง่าย มี Priority Score ช่วยคัดกรองคีย์เวิร์ด
- จุดด้อย: แพ็กเกจฟรีมีข้อจำกัด
- ฟีเจอร์พิเศษ:
- Search volume, keyword difficulty, organic CTR
- Priority Score บอกโอกาสในการติดอันดับ
- Competitor analysis
- SERP analysis
- ตัวอย่างการใช้งาน:
- ค้นหาคีย์เวิร์ดหลักสำหรับเว็บไซต์ของคุณ
- วิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคู่แข่ง
- ค้นหาคีย์เวิร์ดแบบ long-tail
- ติดตามอันดับคีย์เวิร์ด
- ราคา:
- ฟรี: 10 ค้นหาต่อเดือน
- Standard: $99/เดือน
- Medium: $179/เดือน
- Large: $299/เดือน
- PREMIUM: $599/เดือน
2. Semrush
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับวิเคราะห์เจตนาในการค้นหา มีเครื่องมือ Keyword Magic และ Keyword Overview
- จุดด้อย: แพ็กเกจฟรีมีข้อจำกัด แพ็กเกจเสียเงินราคาค่อนข้างสูง
- ฟีเจอร์พิเศษ:
- Search volume, keyword difficulty, cost-per-click (CPC)
- Search intent (informational, navigational, commercial, transactional)
- Keyword trends
- SERP features (featured snippets, videos, carousels)
- Competitor analysis
- ตัวอย่างการใช้งาน:
- ค้นหาคีย์เวิร์ดที่ตรงกับเจตนาของผู้ใช้
- วิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคู่แข่ง
- ค้นหาคีย์เวิร์ดแบบ long-tail
- ติดตามอันดับคีย์เวิร์ด
- ราคา:
- Free: 10 ค้นหาต่อวัน
- Pro: $129.95/เดือน
- Guru: $229.95/เดือน
- Business: $499.95/เดือน
3. Ahrefs
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับติดตามและวิเคราะห์คีย์เวิร์ด ดึงข้อมูลคีย์เวิร์ดจาก 10 เครื่องมือค้นหา
- จุดด้อย: แพ็กเกจเสียเงินราคาค่อนข้างสูง
- ฟีเจอร์พิเศษ:
- Search volume, keyword difficulty, CPC
- Global volume, traffic potential
- Ahrefs Rank, Domain Rating, URL Rating
- SERP features (featured snippets, videos, carousels)
- Keyword tracking
- Competitor analysis
- ตัวอย่างการใช้งาน:
- ติดตามอันดับคีย์เวิร์ดของคุณ
- วิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคู่แข่ง
- ค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่
- ค้นหา backlink
- วิเคราะห์เว็บไซต์
- ราคา:
- Lite: $99/เดือน
- Standard: $199/เดือน
- Advanced: $399/เดือน
- Enterprise: Custom/เดือน
4. QuestionDB
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับคีย์เวิร์ดแบบ long-tail ดึงข้อมูลจากฟอรัมออนไลน์
- จุดด้อย: ข้อมูลค่อนข้างจำกัด ฟีเจอร์น้อย
- ฟีเจอร์พิเศษ:
- Keyword difficulty
- Related questions
- Question trends
- ตัวอย่างการใช้งาน:
- ค้นหาคีย์เวิร์ดแบบ long-tail
- ค้นหาคำถามที่ผู้ใช้ถามเกี่ยวกับหัวข้อของคุณ
- ค้นหาไอเดียสำหรับเนื้อหา
- ราคา:
- Free: 60 คำถามต่อเดือน
- Solo: $15/เดือน
- Agency: $50/เดือน
5. Google Keyword Planner
- จุดเด่น: ฟรี เหมาะสำหรับคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC)
- จุดด้อย: ข้อมูลค่อนข้างจำกัด
- ฟีเจอร์พิเศษ:
- Search volume, CPC
- Average top of page bid
- Competition level
- Keyword trends
- ตัวอย่างการใช้งาน:
- ค้นหาคีย์เวิร์ดสำหรับแคมเปญ PPC
- ค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง
- ประเมินต้นทุนของแคมเปญ PPC
- ราคา: ฟรี
6. SECockpit
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับวิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคู่แข่ง ใช้งานง่าย
- จุดด้อย: แพ็กเกจเสียเงินราคาค่อนข้างสูง
- ฟีเจอร์พิเศษ:
- Search volume, keyword difficulty
- Niche Value
- Competitor analysis
- SERP analysis
- Backlink analysis
- ตัวอย่างการใช้งาน:
- วิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคู่แข่ง
- ค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่
- ค้นหา backlink
- วิเคราะห์เว็บไซต์
- ราคา:
- Personal: $25/เดือน
- Pro: $42/เดือน
- Agency: $75/เดือน
7. TopicRanker
- จุดเด่น: เหมาะสำหรับการหาจุดอ่อนของคู่แข่ง ช่วยในการสร้างคอนเทนต์
- จุดด้อย: ข้อมูลค่อนข้างจำกัด แพ็กเกจเสียเงินราคาค่อนข้างสูง
- ฟีเจอร์พิเศษ:
- Keyword suggestions
- Content ideation (title ideas, meta descriptions, content briefs, articles)
- Competitor analysis
- SERP analysis
- ตัวอย่างการใช้งาน:
- หาจุดอ่อนของคู่แข่ง
- ค้นหาไอเดียสำหรับเนื้อหา
- เขียนเนื้อหา SEO
- ราคา:
- Starter: $9/เดือน
- Advanced: $59/เดือน
- Professional: $129/เดือน
สรุป
เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ดเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการทำ SEO แต่ละเครื่องมือมีจุดเด่น จุดด้อย และฟีเจอร์พิเศษที่แตกต่างกัน คุณต้องเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ดเพิ่มเติม
- KWFinder
- Long Tail Pro
- RankBrain
- Soovle
- Ubersuggest
คำแนะนำ
- เริ่มต้นด้วยเครื่องมือฟรี เช่น Google Keyword Planner
- พัฒนาทักษะการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคุณ
- ทดลองใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อค้นหาเครื่องมือที่เหมาะกับคุณ
- ลงทุนในเครื่องมือที่มีคุณภาพสูงหากจำเป็น
แหล่งข้อมูล
- Moz Keyword Explorer: https://moz.com/
- Semrush: https://www.semrush.com/
- Ahrefs: https://ahrefs.com/
- QuestionDB: https://questiondb.io/
- Google Keyword Planner: https://ads.google.com/home/tools/keyword-planner/
- SECockpit: https://www.secockpit.com/
- TopicRanker: https://topicranker.com/
อนาคตของการวิจัยคีย์เวิร์ด
การทำ SEO ยุคใหม่มุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้มากกว่าคีย์เวิร์ด คุณยังคงต้องใช้คีย์เวิร์ดหลักเพื่อทำความเข้าใจเจตนาในการค้นหา แต่ไม่จำเป็นต้องยัดเยียดคีย์เวิร์ดลงในคอนเทนต์มากเกินไป
เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ดเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่ AI จะมีบทบาทมากขึ้น ช่วยให้การวิจัยคีย์เวิร์ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อ้างอิงบทความจาก
7 Advanced Keyword Research Tools for 2024