ใบกำกับภาษี: เอกสารสำคัญสำหรับธุรกิจและภาครัฐ
ใบกำกับภาษี เปรียบเสมือน “ใบเสร็จ” พิเศษสำหรับธุรกิจที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจใบกำกับภาษีอย่างถ่องแท้
องค์ประกอบสำคัญบนใบกำกับภาษี:
- ข้อมูลทั่วไป:
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลข VAT) ของผู้ขายและผู้ซื้อ
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ
- วันที่ออกใบกำกับภาษี
- เลขที่ใบกำกับภาษี
- รายละเอียดสินค้าหรือบริการ:
- รายละเอียดสินค้าหรือบริการ
- หน่วยนับ
- ราคาต่อหน่วย
- จำนวน
- มูลค่ารวม
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม:
- อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7%
- ยอดภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ยอดรวมสุทธิ:
- ยอดรวมสินค้าหรือบริการ
- ยอดภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ยอดรวมสุทธิ
ประเภทของใบกำกับภาษี:
- ใบกำกับภาษีแบบเต็ม: แสดงรายละเอียดครบถ้วน นิยมใช้สำหรับธุรกิจ B2B
- ใบกำกับภาษีแบบย่อ: แสดงรายละเอียดบางส่วน นิยมใช้สำหรับธุรกิจ B2C
- ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อ: ใช้สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ขายสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป สามารถออกได้โดยไม่ต้องจดทะเบียน VAT
ปัจจุบันกรมสรรพากรได้แบ่งใบกำกับภาษีออกเป็น 7 ประเภท ดังนี้
- ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
- ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ
- ใบเพิ่มหนี้
- ใบลดหนี้
- ใบเสร็จรับเงินที่ส่วนราชการออกให้ในการขายทอดตลาด
- ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรที่ออกให้สำหรับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกากร หรือกรมสรรพสามิตออกให้ในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อดีของใบกำกับภาษี:
- หลักฐานการซื้อขาย: เป็นหลักฐานยืนยันการซื้อขายสินค้าหรือบริการ
- ใช้ในการคำนวณภาษี: ผู้ซื้อสามารถนำไปหักภาษีซื้อ (Input VAT) กับภาษีขาย (Output VAT) ได้
- เอกสารประกอบการยื่นภาษี: ผู้ขายต้องเก็บใบกำกับภาษีเพื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 30) กับกรมสรรพากร
- หลักฐานการจ่ายเงิน: สามารถใช้ประกอบการขอเบิกจ่ายเงินกับบริษัท หรือใช้เป็นหลักฐานในการขอสินเชื่อ
FAQ:
ใครต้องออกใบกำกับภาษี?
- ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ต้องเก็บใบกำกับภาษีนานแค่ไหน?
- ต้องเก็บใบกำกับภาษีอย่างน้อย 5 ปี
กรณีข้อมูลบนใบกำกับภาษีผิดพลาดต้องทำอย่างไร?
- แจ้งผู้ขายแก้ไขใบกำกับภาษี
บทความนี้หวังว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจใบกำกับภาษีมากขึ้น!
แหล่งข้อมูล:
- กรมสรรพากร: https://www.rd.go.th/
- Kasikornbank: https://www.kasikornbank.com/th/kbiz/article/pages/what-is-tax-invoice.aspx