Article

ค่าแรงงาน (Labor) หมายถึง ??

ค่าแรงงาน (Labor) หมายถึง ค่าจ้างหรือผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างหรือคนงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า

เลือกอ่าน หัวข้อที่สนใจ


โดยปกติแล้วค่าแรงงานจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด

คือ ค่าแรงงานทางตรง (Direct labor) และค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect labor)

1) ค่าแรงงานทางตรง (Direct labor)


หมายถึง ค่าแรงงานต่าง ๆ ที่จ่ายให้แก่คนงานหรือลูกจ้างที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการผลิตสินค้าสำเร็จรูปโดยตรง รวมทั้งเป็นค่าแรงงานที่มีจำนวนมากเมื่อเทียบกับค่าแรงงานทางอ้อมในการผลิตสินค้าหน่วยหนึ่ง ๆ และจัดเป็นค่าแรงงานส่วนสำคัญในการแปรรูปวัตถุดิบให้เป็นสินค้าสำเร็จรูป เช่น คนงานที่ทำงานเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตก็ควรถือเป็นแรงงานทางตรง พนักงานในสายการประกอบ เป็นต้น

2) ค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect labor)

หมายถึง ค่าแรงงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับค่าแรงงานทางตรงที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่น เงินเดือนผู้ควบคุมโรงงาน เงินเดือนพนักงานทำความสะอาดเครื่องจักร และโรงงาน พนักงานตรวจสอบคุณภาพ ช่างซ่อมบำรุง ตลอดจนต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับคนงาน เช่น ค่าภาษีที่ออกให้ลูกจ้าง สวัสดิการต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งค่าแรงงานทางอ้อมเหล่านี้จะถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายการผลิต


เพิ่มเติม (Update 2024): เข้าใจความแตกต่างระหว่าง Direct Labor และ Indirect Labor

ในธุรกิจ การควบคุมต้นทุนแรงงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน บทความนี้มุ่งเน้นไปที่การอธิบายความแตกต่างระหว่าง Direct Labor และ Indirect Labor เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจองค์ประกอบสำคัญของต้นทุนแรงงาน

Direct Labor (แรงงานทางตรง) หมายถึง แรงงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิตสินค้าหรือบริการ ตัวอย่างของ Direct Labor ได้แก่:

  • พนักงานในสายการผลิต
  • พนักงานประกอบสินค้า
  • พนักงานขับรถส่งสินค้า
  • ช่างซ่อมบำรุงเครื่องจักร

Indirect Labor (แรงงานทางอ้อม) หมายถึง แรงงานที่สนับสนุนการผลิตสินค้าหรือบริการ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง ตัวอย่างของ Indirect Labor ได้แก่:

  • พนักงานธุรการ
  • พนักงานขาย
  • พนักงานบัญชี
  • พนักงานรักษาความปลอดภัย

การแยกแยะระหว่าง Direct Labor และ Indirect Labor มีประโยชน์ดังนี้:

  • การคำนวณต้นทุนการผลิต: Direct Labor เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิตโดยตรง ในขณะที่ Indirect Labor เป็นส่วนหนึ่งของ Overhead
  • การวิเคราะห์ประสิทธิภาพ: การวัดผลผลิตของ Direct Labor ช่วยให้เข้าใจประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต
  • การตัดสินใจด้านกลยุทธ์: การเข้าใจต้นทุน Indirect Labor ช่วยให้บริษัทตัดสินใจเกี่ยวกับการจ้างงาน การฝึกอบรม และเทคโนโลยี

ตัวอย่าง:

โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์มีพนักงาน 20 คน 10 คนทำงานในสายการผลิต (Direct Labor) และ 10 คนทำงานในฝ่ายอื่นๆ เช่น บัญชี ธุรการ และขาย (Indirect Labor)

ค่าจ้างรวม ของพนักงานทั้งหมด 20 คน คิดเป็น ต้นทุนแรงงาน ของโรงงาน

ต้นทุน Direct Labor คิดเป็นค่าจ้างของพนักงาน 10 คนที่ทำงานในสายการผลิต

ต้นทุน Indirect Labor คิดเป็นค่าจ้างของพนักงาน 10 คนที่ทำงานในฝ่ายอื่นๆ

การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Direct Labor และ Indirect Labor ช่วยให้โรงงานเฟอร์นิเจอร์:

  • คำนวณต้นทุนการผลิต ของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นได้อย่างแม่นยำ
  • วิเคราะห์ประสิทธิภาพ ของกระบวนการผลิต
  • ตัดสินใจ เกี่ยวกับการจ้างงาน การฝึกอบรม และเทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพ


ต้นทุนแรงงาน: แยกแยะ Fixed vs. Variable Costs

ในบทความก่อนหน้า เราอธิบายความแตกต่างระหว่าง Direct Labor และ Indirect Labor

ในบทความนี้ เราจะมุ่งเน้นไปที่ ประเภทของต้นทุนแรงงาน แบ่งตามลักษณะการเปลี่ยนแปลง

ต้นทุนแรงงาน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:

1. Fixed Costs (ต้นทุนคงที่) หมายถึง ต้นทุนแรงงานที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต ตัวอย่างของ Fixed Costs ได้แก่:

  • เงินเดือนพนักงานประจำ
  • ค่าเช่าพื้นที่
  • ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค

2. Variable Costs (ต้นทุนผันแปร) หมายถึง ต้นทุนแรงงานที่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต ตัวอย่างของ Variable Costs ได้แก่:

  • ค่าจ้างชั่วโมง
  • ค่าคอมมิชชั่น
  • ค่าล่วงเวลา

การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Fixed Costs และ Variable Costs มีประโยชน์ดังนี้:

  • การวางแผนงบประมาณ: การคาดการณ์ต้นทุนแรงงานคงที่และผันแปร ช่วยให้บริษัทวางแผนงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การวิเคราะห์ผลกำไร: การแยกแยะต้นทุนแรงงาน 2 ประเภท ช่วยให้บริษัทวิเคราะห์ผลกำไรได้แม่นยำ
  • การตัดสินใจด้านกลยุทธ์: การเข้าใจ Fixed Costs และ Variable Costs ช่วยให้บริษัทตัดสินใจเกี่ยวกับราคาสินค้า บริการ และกลยุทธ์การผลิต

ตัวอย่าง:

โรงงานผลิตเสื้อผ้ามีพนักงานประจำ 10 คน แต่ละคนได้รับเงินเดือน 15,000 บาทต่อเดือน

โรงงานจ้างพนักงานชั่วคราวเพิ่มเติม 5 คน เมื่อมีออเดอร์สินค้ามากขึ้น พนักงานชั่วคราวได้รับค่าจ้างชั่วโมงละ 300 บาท

Fixed Costs ของโรงงาน

  • เงินเดือนพนักงานประจำ 10 คน x 15,000 บาท = 150,000 บาท

Variable Costs ของโรงงาน

  • ค่าจ้างพนักงานชั่วคราว ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงที่ทำงาน

การเข้าใจ Fixed Costs และ Variable Costs ช่วยให้โรงงานเสื้อผ้า:

  • วางแผนงบประมาณ สำหรับค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน
  • วิเคราะห์ผลกำไร โดยคำนวณต้นทุนแรงงานทั้งหมด
  • ตัดสินใจ เกี่ยวกับจำนวนพนักงาน การจ้างงาน การผลิต และกลยุทธ์การขาย

สูตรคำนวณต้นทุนแรงงานแบบง่าย

ในบทความก่อนหน้า เราอธิบายความแตกต่างระหว่าง Direct Labor กับ Indirect Labor และ Fixed Costs กับ Variable Costs ในบทความนี้ เราจะนำเสนอ สูตรคำนวณต้นทุนแรงงานแบบง่าย

สูตรคำนวณต้นทุนแรงงานโดยรวม:

ต้นทุนแรงงานทั้งหมด = Direct Labor + Indirect Labor

สูตรคำนวณ Direct Labor:

Direct Labor = อัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง x จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน

สูตรคำนวณ Indirect Labor:

Indirect Labor = ค่าใช้จ่ายทั้งหมด / จำนวนชั่วโมงการผลิต

ตัวอย่าง:

โรงงานผลิตของเล่นมีพนักงาน 20 คน 10 คนทำงานในสายการผลิต (Direct Labor) และ 10 คนทำงานในฝ่ายอื่นๆ เช่น บัญชี ธุรการ และขาย (Indirect Labor)

อัตราค่าจ้าง ของพนักงานในสายการผลิตคือ 300 บาทต่อชั่วโมง

จำนวนชั่วโมง ที่พนักงานในสายการผลิตทำงานคือ 8 ชั่วโมงต่อวัน

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ของโรงงานคือ 200,000 บาทต่อเดือน

จำนวนชั่วโมง การผลิตของโรงงานคือ 1,600 ชั่วโมงต่อเดือน (20 คน x 8 ชั่วโมงต่อวัน x 20 วันทำการ)

Direct Labor:

  • 300 บาท/ชั่วโมง x 8 ชั่วโมง/วัน x 10 คน x 20 วัน = 480,000 บาท

Indirect Labor:

  • 200,000 บาท / 1,600 ชั่วโมง = 125 บาท/ชั่วโมง

ต้นทุนแรงงานทั้งหมด:

  • 480,000 บาท + (125 บาท/ชั่วโมง x 1,600 ชั่วโมง) = 800,000 บาท


การคำนวณต้นทุนแรงงานจริง

ในบทความก่อนหน้า เราอธิบายวิธีการคำนวณต้นทุนแรงงานแบบง่าย ในบทความนี้ เราจะนำเสนอวิธีการคำนวณ ต้นทุนแรงงานจริง ที่มีความซับซ้อนมากกว่า

ขั้นตอนการคำนวณต้นทุนแรงงานจริง:

  1. ระบุประเภทของต้นทุนแรงงาน: แยกแยะ Direct Labor และ Indirect Labor
  2. คำนวณ Direct Labor:
    • คำนวณค่าจ้างพื้นฐาน
    • คำนวณค่าล่วงเวลา
    • คำนวณค่าประกันสังคม
    • คำนวณภาษี
  3. คำนวณ Indirect Labor:
    • แบ่งประเภท Indirect Labor
    • คำนวณต้นทุนแต่ละประเภท
  4. รวมต้นทุนแรงงานทั้งหมด:
    • Direct Labor + Indirect Labor = ต้นทุนแรงงานทั้งหมด

ตัวอย่าง:

โรงงานผลิตเสื้อผ้ามีพนักงาน 20 คน 10 คนทำงานในสายการผลิต (Direct Labor) และ 10 คนทำงานในฝ่ายอื่นๆ เช่น บัญชี ธุรการ และขาย (Indirect Labor)

ข้อมูล:

  • อัตราค่าจ้างพื้นฐาน: 300 บาทต่อชั่วโมง
  • ชั่วโมงการทำงานปกติ: 8 ชั่วโมงต่อวัน
  • จำนวนวันทำการ: 20 วันต่อเดือน
  • อัตราค่าล่วงเวลา: 1.5 เท่าของค่าจ้างปกติ
  • ค่าประกันสังคม: 5% ของค่าจ้าง
  • ภาษี: 10% ของค่าจ้าง

การคำนวณ Direct Labor:
  • ค่าจ้างพื้นฐาน: 300 บาท/ชั่วโมง x 8 ชั่วโมง/วัน x 10 คน x 20 วัน = 480,000 บาท
  • ค่าล่วงเวลา: สมมติว่าพนักงานทำงานล่วงเวลา 2 ชั่วโมงต่อวัน
    • 300 บาท/ชั่วโมง x 1.5 x 2 x 10 x 20 = 120,000 บาท
  • ค่าประกันสังคม: 480,000 บาท x 5% = 24,000 บาท
  • ภาษี: 480,000 บาท x 10% = 48,000 บาท
  • Direct Labor ทั้งหมด: 480,000 + 120,000 + 24,000 + 48,000 = 672,000 บาท

การคำนวณ Indirect Labor:
  • แบ่งประเภท Indirect Labor:
    • ค่าใช้จ่ายด้านธุรการ
    • ค่าใช้จ่ายด้านบัญชี
    • ค่าใช้จ่ายด้านการขาย
    • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
  • คำนวณต้นทุนแต่ละประเภท:
    • ค่าใช้จ่ายด้านธุรการ: 10,000 บาท
    • ค่าใช้จ่ายด้านบัญชี: 15,000 บาท
    • ค่าใช้จ่ายด้านการขาย: 20,000 บาท
    • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ: 5,000 บาท
  • Indirect Labor ทั้งหมด: 10,000 + 15,000 + 20,000 + 5,000 = 50,000 บาท

ต้นทุนแรงงานทั้งหมด:

  • 672,000 บาท (Direct Labor) + 50,000 บาท (Indirect Labor) = 722,000 บาท

แหล่งข้อมูล

หมายเหตุ:
  • บทความนี้เป็นเพียงภาพรวมของ Direct Labor Indirect Labor และส่วนอื่นๆยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย โปรดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
  • ธุรกิจแต่ละประเภทมีวิธีการคำนวณต้นทุนแรงงานที่แตกต่างกัน
  • บทความทั้งหมดเป็นบทความแปล อาจมีข้อความผิดผลาดหรือไม่ถูกต้อง กรุณาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง อาจใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นหรือประยุกต์ได้

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Direct Labor Indirect Labor และส่วนอื่นๆ
และสามารถนำความรู้ไปใช้ในการวิเคราะห์ต้นทุนแรงงานในธุรกิจของคุณ

ขอบคุณ
รุปภาพ https://pixabay.com/th


สนใจโปรแกรมบริหารโครงการ ต้นทุน / การบันทึกการทำงานพนักงาน แบบ online คลิก https://www.wisdomfirm.com/service-promotion/

อยากได้ระบบช่วยคำนวนการทำงาน(ค่าแรง) แต่ละวันโดยสามารถรู้รายละเอียดของาน ได้ตาม โครงการต่างๆได้อย่างดี
สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมคลิกที่นี่


ขายของ : ปัญหาหนักอก! บริหารจัดการพนักงานยุ่งยาก คำนวณต้นทุนผิดพลาด เสียเวลา เสียเงิน

อย่าปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้รบกวนธุรกิจของคุณ!

FMS: WisdomFirm Timesheet โปรแกรมบันทึกเวลาทำงานออนไลน์ ช่วยให้คุณบริหารจัดการพนักงาน คำนวณต้นทุน และติดตามความคืบหน้าโครงการแบบ Realtime ได้ง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว แม่นยำ

** ฟีเจอร์เด็ดที่ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ**

  • บันทึกเวลาทำงานแบบ Realtime ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น บนมือถือ
  • คำนวณต้นทุนแรงงาน ต้นทุนโครงการ แบบอัตโนมัติ แม่นยำ
  • ติดตามความคืบหน้าโครงการ วิเคราะห์ข้อมูลการทำงานของพนักงาน
  • สรุปผลรายงาน จัดการเอกสาร ใบลา ใบเบิกต่างๆ ง่ายๆ
  • รองรับการทำงานแบบ Work From Home ไม่ต้องลงโปรแกรม
  • ปรับแต่งระบบให้เข้ากับธุรกิจของคุณได้หลากหลาย

** บอกลาปัญหาเหล่านี้**

  • บันทึกเวลาทำงานผิดพลาด คำนวณต้นทุนไม่แม่นยำ
  • เสียเวลาจัดการเอกสาร ใบลา ใบเบิกต่างๆ
  • ติดตามความคืบหน้าโครงการยาก ควบคุมต้นทุนไม่ได้
  • บริหารจัดการพนักงานแบบ Manual ยุ่งยาก ล้าหลัง

** เปลี่ยนธุรกิจของคุณให้มีประสิทธิภาพ**

  • ประหยัดเวลา ลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร
  • บริหารจัดการพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ติดตามความคืบหน้าโครงการ วิเคราะห์ข้อมูลการทำงาน
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รองรับ Work From Home

** พิเศษ! สมัครใช้งานวันนี้**

  • โปรโมชั่นสุดคุ้ม สมัครเลย!

** คลิกเพื่อลงทะเบียน: https://bit.ly/RegWisDomFMS **

**อย่ารอช้า! เปลี่ยนการบริหารจัดการธุรกิจของคุณให้มีประสิทธิภาพ **

Close