Article

คลาวด์สตอเรจเจ้าไหนดี? 9 บริการเก็บไฟล์ฟรี

คลาวด์สตอเรจ : ยุคดิจิทัลนี้ ข้อมูลคือขุมทรัพย์ที่สำคัญที่สุด การจัดเก็บและบริหารข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง บริการคลาวด์สตอเรจ (Cloud Storage) จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ ช่วยให้เราจัดเก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัย เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์อีกด้วย

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจ 9 บริการคลาวด์สตอเรจชั้นนำที่ให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลฟรี พร้อมวิเคราะห์จุดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างลงตัว

เลือกอ่าน หัวข้อที่สนใจ

บริการคลาวด์สตอเรจชั้นนำที่ให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลฟรี

1. Microsoft OneDrive: เชื่อถือได้จาก Microsoft

  • พื้นที่ฟรี: 5GB
  • จุดเด่น: OneDrive ทำงานร่วมกับ Microsoft Office 365 ได้อย่างลงตัว รองรับการใช้งานบนทุกแพลตฟอร์มด้วยความน่าเชื่อถือสูง เหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับระบบนิเวศของ Microsoft

2. MEGA: พื้นที่จัดเก็บเยอะจุใจ เน้นความเป็นส่วนตัว

  • พื้นที่ฟรี: 20GB
  • จุดเด่น: MEGA นำเสนอพื้นที่เก็บข้อมูลฟรีมากที่สุดในบรรดาบริการที่นำเสนอ พร้อมระบบเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของคุณอย่างสูงสุด

3. Google Drive: ทำงานร่วมกับ Google ได้อย่างราบรื่น

  • พื้นที่ฟรี: 15GB (ใช้ร่วมกับบริการอื่นๆ ของ Google)
  • จุดเด่น: Google Drive เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ใช้บริการต่างๆ ของ Google อยู่แล้ว เพราะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง แก้ไข หรือแชร์เอกสาร รวมถึงการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Google Workspace อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

4. Icedrive: เร็ว แรง ใช้งานง่าย

  • พื้นที่ฟรี: 10GB
  • จุดเด่น: Icedrive โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็ว หน้าตาอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และเทคโนโลยีการเข้ารหัสที่ทันสมัย ช่วยให้คุณจัดเก็บและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

5. Koofr: ตัวเลือกจากยุโรป เน้นความเป็นส่วนตัว

  • พื้นที่ฟรี: 10GB
  • จุดเด่น: Koofr ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบ GDPR อย่างเคร่งครัด และไม่มีการติดตามกิจกรรมของผู้ใช้

6. pCloud: ปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานสวิส

  • พื้นที่ฟรี: 10GB
  • จุดเด่น: pCloud โดดเด่นด้วยระบบซิงค์ไฟล์ที่ใช้งานง่าย และมาตรฐานความปลอดภัยสูง ด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวด จึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัยหายห่วง

7.Dropbox: คลาสสิกแต่ยังคงคุณภาพ

  • พื้นที่ฟรี: 2GB
  • จุดเด่น: ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์หลากหลาย และมีแอปพลิเคชันสำหรับทุกแพลตฟอร์ม
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการบริการที่ใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์หลากหลาย

8. MediaFire: แชร์ไฟล์ง่าย ๆ

  • พื้นที่ฟรี: 10GB
  • จุดเด่น: ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการแชร์ไฟล์กับผู้อื่นเป็นหลัก

9. Sync.com: เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

  • พื้นที่ฟรี: 5GB
  • จุดเด่น: ระบบเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่แข็งแกร่ง ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลที่เป็นความลับ หรือข้อมูลที่มีความอ่อนไหวสูง

นอกจาก ข้างต้น ยังมีคลาวด์สตอเรจฟรีอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายตัวเลือก:

ตัวเลือกอื่น ๆ:

  • Degoo: ให้พื้นที่ฟรีมากถึง 100GB แต่มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ความเร็วในการอัปโหลด/ดาวน์โหลด และฟีเจอร์ที่น้อยกว่า
  • Amazon Drive: สำหรับสมาชิก Amazon Prime เท่านั้น มีพื้นที่เก็บรูปไม่จำกัด

ตัวเลือกสำหรับเก็บรูปภาพ:

  • Google Photos: พื้นที่เก็บรูปความละเอียดสูงไม่จำกัด (แต่มีการบีบอัด) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บรูปเป็นหลัก
  • iCloud Photos: สำหรับผู้ใช้ Apple เท่านั้น มีพื้นที่ฟรี 5GB

ตัวเลือกสำหรับธุรกิจ:

  • Box: เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง มีฟีเจอร์สำหรับทำงานร่วมกันและระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี
  • Tresorit: เน้นความปลอดภัยขั้นสูง เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการปกป้องข้อมูลสำคัญ

คำแนะนำ:

ก่อนเลือกคลาวด์สตอเรจ ควรพิจารณาความต้องการของคุณเป็นหลัก เช่น

  • ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเท่าไร?
  • ต้องการฟีเจอร์อะไรบ้าง? (เช่น การแชร์ไฟล์, การทำงานร่วมกัน, การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ)
  • ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากแค่ไหน?

ลองเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละตัวเลือก แล้วเลือกตัวที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด

ประโยชน์ของการใช้คลาวด์สตอเรจ

  • เข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา: เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายๆ
  • ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ: แชร์ไฟล์และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้แบบเรียลไทม์
  • สำรองข้อมูลอัตโนมัติ: ลดความเสี่ยงจากการสูญหายของข้อมูล
  • ประหยัดพื้นที่: ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่จัดเก็บในอุปกรณ์
  • ลดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์สำหรับจัดเก็บข้อมูล

เลือกคลาวด์สตอเรจอย่างไรให้เหมาะกับคุณ?

  • พื้นที่จัดเก็บ: พิจารณาว่าคุณต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลมากน้อยแค่ไหน
  • ความปลอดภัย: หากข้อมูลมีความสำคัญสูง ควรเลือกบริการที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง
  • การใช้งานร่วมกัน: หากต้องการทำงานร่วมกับผู้อื่น ควรเลือกบริการที่รองรับการทำงานร่วมกันได้ดี
  • ความสะดวกในการใช้งาน: เลือกบริการที่มีอินเตอร์เฟซใช้งานง่าย และรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ

ใช้งานคลาวด์สตอเรจในชีวิตจริง:

ส่วนตัว:

  1. เก็บรูปภาพและวิดีโอ: สำรองรูปจากมือถือขึ้นคลาวด์ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในเครื่องและป้องกันการสูญหาย
  2. แชร์รูปท่องเที่ยว: สร้างอัลบั้มรูปท่องเที่ยวบนคลาวด์ แล้วแชร์ให้เพื่อน ๆ ดูได้ง่าย ๆ
  3. เก็บเพลงและหนัง: สร้างคลังเพลงและหนังส่วนตัวบนคลาวด์ ฟังหรือดูได้ทุกที่
  4. เก็บเอกสารสำคัญ: สำเนาบัตรประชาชน, พาสปอร์ต, เอกสารการเงิน เก็บไว้บนคลาวด์เพื่อความปลอดภัย
  5. เขียนบันทึก: ใช้คลาวด์เป็นสมุดบันทึกส่วนตัว เขียนไดอารี่, จดไอเดีย, หรือทำ To-do list

การทำงาน:

  1. แชร์ไฟล์งาน: ส่งไฟล์งานขนาดใหญ่ให้เพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าได้ง่าย ๆ
  2. ทำงานร่วมกัน: แก้ไขเอกสารพร้อมกันแบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  3. เก็บข้อมูลลูกค้า: จัดเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างปลอดภัยและเป็นระบบ
  4. สร้างพอร์ตงาน: นักออกแบบ, ช่างภาพ, นักเขียน สามารถสร้างพอร์ตงานออนไลน์บนคลาวด์
  5. สำรองข้อมูลบริษัท: สำรองข้อมูลสำคัญของบริษัท ป้องกันการสูญหายจากภัยพิบัติ

การศึกษา:

  1. ส่งงานอาจารย์: นักเรียนนักศึกษาสามารถส่งงานให้อาจารย์ผ่านคลาวด์ได้
  2. ทำโปรเจกต์กลุ่ม: ทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อน ๆ ได้ง่ายขึ้น แชร์ไฟล์และแก้ไขเอกสารพร้อมกัน
  3. เก็บข้อมูลการเรียน: เก็บชีทเรียน, เอกสารประกอบการเรียน, หรือบันทึกเสียงการบรรยาย
  4. ทำวิจัย: เก็บข้อมูลและเอกสารอ้างอิงสำหรับงานวิจัย
  5. เรียนออนไลน์: เข้าถึงเนื้อหาการเรียน, แบบฝึกหัด, และวิดีโอการสอนได้จากทุกที่

อื่น ๆ:

  1. เก็บสูตรอาหาร: สร้างคลังสูตรอาหารส่วนตัว หยิบมาดูตอนทำอาหารได้ง่าย ๆ
  2. วางแผนท่องเที่ยว: เก็บแผนการเดินทาง, ตั๋วเครื่องบิน, ใบจองโรงแรม ไว้ในที่เดียว
  3. เก็บประวัติการรักษา: เก็บข้อมูลการรักษาพยาบาล, ผลตรวจสุขภาพ, หรือใบสั่งยา
  4. แชร์ไฟล์กับครอบครัว: แชร์รูปภาพ, วิดีโอ, หรือเอกสารสำคัญกับคนในครอบครัว
  5. บริจาคไฟล์: บริจาคไฟล์รูปภาพ, วิดีโอ, หรือเอกสารที่ไม่ใช้แล้วให้กับองค์กรการกุศล

สรุป

บริการคลาวด์สตอเรจแต่ละเจ้ามีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป การเลือกบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณจะช่วยให้คุณจัดเก็บและบริหารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลองพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และเลือกบริการที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด

เริ่มต้นใช้งานคลาวด์สตอเรจวันนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและจัดเก็บข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น!

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://web.facebook.com/groups/wpbkk
Cloud Storage บริการเก็บไฟล์ออนไลน์ ที่ดีที่สุดในปี 2021 | โปรแกรมบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ระบบขาย ระบบขายออนไลน์ บน Cloud Computing – myCRM (getmycrm.com)

Close