News

กฎหมายแรงงาน ทำงาน 12 ชั่วโมง เข้าใจว่าอย่างไร

ทำไมผู้ประกอบการต้องรู้กฎหมายแรงงานเรื่องเวลาทำงาน? สวัสดีครับท่านผู้ประกอบการทุกท่าน! ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลายคนอาจคิดว่าชั่วโมงการทำงานควรจะลดลง แต่ในความเป็นจริง ยังมีหลายอาชีพที่ต้องการคนทำงานล่วงเวลาอยู่มาก เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน (Win-Win) สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องรู้คือ “กฎหมายแรงงาน” นั่นเองครับ

เลือกอ่าน หัวข้อที่สนใจ

ความเป็นธรรมและป้องกันการเอารัดเอาเปรียบ

กฎหมายแรงงานเรื่องเวลาทำงานถูกออกแบบมาเพื่อคุ้มครองลูกจ้าง ให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกนายจ้างเอาเปรียบมากเกินไป ลองคิดดูสิครับ ถ้าไม่มีกฎหมายนี้ นายจ้างบางคนอาจจะให้ลูกจ้างทำงานหามรุ่งหามค่ำ โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม

การจ่ายค่าล่วงเวลา (OT) และความสำคัญ

การทำงานล่วงเวลา หรือที่เรียกติดปากว่า “โอที” (Overtime: OT) เป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มเติมให้กับลูกจ้าง เมื่อลูกจ้างทำงานเกินเวลาทำงานปกติ

เจาะลึกกฎหมายแรงงานทำงานล่วงเวลา

เวลาทำงานปกติของลูกจ้างส่วนใหญ่ คือ ไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่เมื่อไหร่ที่ต้องให้พนักงานทำงานล่วงเวลา กฎหมายแรงงานมีข้อกำหนดที่ผู้ประกอบการควรรู้ ดังนี้ครับ

ข้อกำหนดชั่วโมงทำงานล่วงเวลาสูงสุด

  • ปีแรก: ไม่เกิน 24 ชั่วโมง/สัปดาห์ (หลังจากได้รับการรับรองมาตรฐาน)
  • ปีที่สอง: ไม่เกิน 18 ชั่วโมง/สัปดาห์
  • ปีต่อๆ ไป: ไม่เกิน 12 ชั่วโมง/สัปดาห์

ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความจำเป็นของงาน หรือสถานการณ์พิเศษของธุรกิจด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าจะให้ทำโอทีได้ตลอด

ข้อห้ามการทำงานในวันหยุด (และข้อยกเว้น)

โดยปกติแล้ว นายจ้างจะให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุดไม่ได้ ยกเว้น กรณีที่ถ้าหยุดงานแล้วจะเสียหายต่องาน หรือเป็นงานฉุกเฉินจริงๆ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อนด้วยนะครับ

ข้อกำหนดสำหรับกิจการบางประเภท (โรงแรม, ร้านอาหาร, ฯลฯ)

สำหรับกิจการบางประเภท เช่น โรงแรม ร้านอาหาร งานขนส่ง สถานพยาบาล นายจ้างอาจให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุดได้ แต่ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อนนะครับ

ขีดจำกัดชั่วโมงทำงานรวม (ปกติ + ล่วงเวลา + วันหยุด) กฎหมายกำหนดว่า ชั่วโมงการทำงานปกติ รวมกับชั่วโมงการทำงานในวันหยุด และชั่วโมงการทำโอทีในวันหยุด ต้องไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

สิ่งที่ต้องรู้: การจ่ายค่าล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุด

มาถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ กันบ้าง การจ่ายค่าล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุด มีหลักเกณฑ์ดังนี้ครับ

กรณีค่าจ้างรายเดือน

ถ้าตกลงกันว่าเวลาทำงานปกติเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน ลูกจ้างที่ได้เงินเดือน มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนเท่ากับอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงาน

กรณีไม่ได้รับค่าจ้างรายเดือน

ถ้าตกลงกันว่าเวลาทำงานปกติเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างเพิ่ม:

  • ไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง สำหรับชั่วโมงที่ทำเกิน
  • ไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของค่าจ้างต่อหน่วย (ถ้าคิดค่าจ้างเป็นชิ้น)

การทำงานในวันหยุด: ค่าตอบแทน

  • สำหรับการทำงาน 8 ชั่วโมงแรกในวันหยุด: จ่ายค่าทำงานในวันหยุด
  • สำหรับชั่วโมงที่เกิน 8 ชั่วโมงในวันหยุด: จ่ายไม่น้อยกว่า 3 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง หรือ 3 เท่าของค่าจ้างต่อหน่วย

ผลกระทบของการทำงานล่วงเวลา และสิ่งที่นายจ้างควรทำ

แม้ว่าการทำโอทีจะทำให้พนักงานมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่การทำงานหนักเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้นะครับ ทั้งความเหนื่อยล้า ความเครียด จนอาจถึงขั้น “หมดไฟ” (Burnout) ได้เลย และถ้านายจ้างเลิกจ้างโดยลูกจ้างไม่มีความผิด นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยด้วยนะครับ เช่น ลูกจ้างที่ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี จะได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 90 วัน

5 เคล็ดลับเสริมสร้างสุขภาพกายใจที่ดีในการทำงานล่วงเวลา (สำหรับนายจ้าง)

เช็กลิสต์ชั่วโมงพักผ่อน

ดูให้แน่ใจว่าพนักงานที่ทำงานล่วงเวลา ได้พักผ่อนเพียงพอ เพราะการพักผ่อนน้อยจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ และประสิทธิภาพในการทำงาน

ใส่ใจสุขภาพ (การลาป่วย)

สังเกตการลาป่วยของพนักงาน เพราะการทำงานล่วงเวลามากๆ อาจทำให้สุขภาพแย่ลงในระยะยาว

ปรับทัศนคติ (มองเป็นโอกาส)

ช่วยให้พนักงานมองการทำโอทีเป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะ และก้าวหน้าในอาชีพ

ระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น

ถ้าสัปดาห์นี้ทำงานล่วงเวลาเยอะ สัปดาห์หน้าอาจลดชั่วโมงทำงานลง เพื่อให้พนักงานมีสมดุลชีวิตที่ดีขึ้น

ทุกอย่างต้อง Win-Win (ค่าจ้างและผลประโยชน์)

ค่าจ้างเป็นแรงจูงใจที่ดี แต่ต้องดูด้วยว่าพนักงานได้รับผลประโยชน์อื่นๆ ที่เหมาะสมหรือไม่

บทลงโทษทางกฎหมายสำหรับนายจ้างที่ไม่ปฏิบัติตาม

กฎหมายคุ้มครองแรงงานมีบทลงโทษทางอาญา ถ้านายจ้างไม่ปฏิบัติตาม อาจมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาท จนถึงจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!

บทสรุป

กฎหมายแรงงานเรื่องเวลาทำงานและการทำงานล่วงเวลา เป็นเรื่องสำคัญที่ทั้งนายจ้างและลูกจ้างต้องรู้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว การทำความเข้าใจกฎหมายนี้ จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้นครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. Q: ถ้าบริษัทให้ทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน โดยไม่มีโอที ผิดกฎหมายไหม? A: ผิดแน่นอนครับ เพราะเกินเวลาทำงานปกติที่กฎหมายกำหนด และต้องจ่ายค่าล่วงเวลาด้วย
  2. Q: พนักงานสมัครใจทำงานล่วงเวลาเอง โดยไม่รับโอทีได้ไหม? A: ไม่ได้ครับ กฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลา แม้พนักงานจะยินยอมก็ตาม
  3. Q: ถ้าป่วยจากการทำงานล่วงเวลา จะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง? A: ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยโดยได้รับค่าจ้าง และอาจได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน หรือประกันสังคม ขึ้นอยู่กับกรณี
  4. Q: นายจ้างสามารถบังคับให้ลูกจ้างทำโอทีได้หรือไม่? A: ไม่ได้ครับ การทำงานล่วงเวลาต้องเป็นไปโดยความสมัครใจของลูกจ้าง
  5. Q: ถ้าไม่แน่ใจเรื่องกฎหมายแรงงาน ควรปรึกษาใคร? A: สามารถปรึกษากรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแรงงานได้ครับ

อ้างอิงบทความจาก

ทำงานล่วงเวลา กฎหมายแรงงานที่ผู้ประกอบการควรรู้เพื่อรับมือกับการ Burnout – Jobsdb ไทย

กรณีลูกจ้างทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน นายจ้างมีหน้าที่ตามกฎหมายแรงงานในการจ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับชั่วโมงทำงานที่เกินกว่า 8 ชั่วโมงปกติ (คือ 4 ชั่วโมง) ในอัตราไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง หรือตามที่กฎหมายกำหนด”

Close
WiSDOM FiRM
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.